ในยุคที่ข้อมูลถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านโซเชียลมีเดีย การได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาโรคเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ที่ต้องพึ่งพาการรักษาที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ในระยะนี้มีสื่อโซเชียลมีเดียที่อ้างว่ามีนวัตกรรมใหม่ๆ หรือ อาหารเสริมเพิ่มภูมิ ที่สามารถเพิ่มเซลล์ CD4 ในร่างกายของผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีได้ จนสามารถหยุดการใช้ยาต้านไวรัสได้ ซึ่งเป็นการอ้างที่ขาดหลักฐานทางการแพทย์ และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่ลุกลามได้
อาหารเสริมเพิ่มภูมิ ไม่มีอยู่จริง ยาต้านไวรัสเอชไอวีคือคำตอบ
นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรคของไทย ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า
“ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีไม่ควรหลงเชื่อผลิตภัณฑ์หรือ อาหารเสริมเพิ่มภูมิ ที่อ้างว่ามีประสิทธิภาพในการเพิ่มเซลล์ซีดีโฟร์ จนสามารถหยุดใช้ยาต้านไวรัสได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานมายืนยันถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ การรักษาที่ถูกต้องได้รับการยอมรับและแนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในปัจจุบัน คือการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น”
เป็นวิธีการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพดีที่สุด และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี

ยาต้านไวรัส: วิธีการทำงานและความสำคัญในการรักษา
ยาต้านไวรัสมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งการแบ่งตัว และการเพิ่มจำนวนของเชื้อเอชไอวีในร่างกาย เมื่อผู้ติดเชื้อรับประทานยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย และตรงต่อเวลา ปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดจะลดลงอย่างมาก ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระดับเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดี 4 ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณเชื้อเอชไอวีในร่างกาย แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคฉวยโอกาส ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงจนเข้าสู่ระยะเอดส์ เช่น
- ไข้เรื้อรัง
- ปอดบวม
- วัณโรค
- หลอดอาหารอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ท้องเสียเรื้อรัง
- สายตาพร่ามัว
- ไอเป็นเลือด
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- ความจำเสื่อม
- แขนขาอ่อนแรง เป็นต้น
การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ยังมีบทบาทสำคัญในการลดการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี จากผู้ติดเชื้อไปยังผู้อื่น ดังนั้น การใช้ยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีทุกคนควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
การหลงเชื่อ อาหารเสริมเพิ่มภูมิ มีความเสี่ยงอย่างไร?
การหลงเชื่อในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือวิธีการรักษาที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ เป็นสิ่งที่สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เนื่องจากการหยุดใช้ยาต้านไวรัสตามที่แพทย์แนะนำ จะทำให้เชื้อเอชไอวีในร่างกายเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อนที่อาจทำให้เกิดอาการป่วยและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อ้างว่าสามารถเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกันซีดีโฟร์นั้น ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ มายืนยันว่าได้ผลจริง ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีจึงไม่ควรนำชีวิตของตนไปเสี่ยงกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ การรักษาที่ถูกต้องและได้ผลดีที่สุดสำหรับเอชไอวีในปัจจุบันคือ การใช้ยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น!

การดูแลรักษาภายใต้การควบคุมของแพทย์: สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การรักษาการติดเชื้อเอชไอวีไม่ใช่เพียงแค่การรับประทานยาต้านไวรัสเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องรวมถึงการดูแลตัวเองในด้านอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีแต่ละราย ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ การรักษาในส่วนนี้ รวมถึง:
- การตรวจเช็คร่างกายเป็นระยะ
- การตรวจติดตามระดับเชื้อไวรัส (Viral Load) และเซลล์ CD4 ในเลือด
- การดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มเติม
การรักษาเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีเองต้องมีวินัยสูงในการรับประทานยา การไปพบแพทย์ตามนัด และติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถควบคุมโรค และรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ
บริการตรวจเอชไอวีและการรักษาฟรีโดยไม่ต้องพึ่ง อาหารเสริมเพิ่มภูมิ
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีคือ การเข้าถึงการตรวจและการรักษาที่ได้มาตรฐานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับคนไทยทุกคน ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมอบสิทธิในการตรวจเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพียงแค่นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยื่นขอตรวจ หรือเข้าใช้งานเว็บไซต์ Love2test.org ได้ จองคิวออนไลน์ สะดวกและเป็นความลับ

การตรวจหาเชื้อเอชไอวีเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถทราบสถานะการติดเชื้อของตนเอง และเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อ และช่วยให้ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพได้ นอกจากนี้ การรักษาเอชไอวีในประเทศไทยยังครอบคลุมทุกสิทธิการรักษา ทำให้ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การรักษาฟรีที่ครอบคลุมนี้ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำอย่างไรเมื่อพบข้อมูลที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการรักษาเอชไอวี?
ในยุคที่ข้อมูลถูกเผยแพร่ และแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็ว ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีและประชาชนทั่วไป ควรมีวิจารณญาณในการรับข้อมูล หากพบข้อมูลที่อ้างว่า เป็นนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถรักษาเอชไอวีได้โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ก่อนที่จะตัดสินใจรับการรักษาหรือซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ สำหรับผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี ที่กังวลเกี่ยวกับการรักษา หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแล และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาโรคต่างๆ รวมถึงโรคเอชไอวี โดยเฉพาะเรื่องการใช้ยาต้านไวรัส และการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี ทางกรมควบคุมโรคยินดีที่จะให้คำปรึกษาและตอบคำถามเกี่ยวกับการรักษาและการดูแลสุขภาพของผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีทุกคน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุด |
ความสำคัญของการรักษาที่ได้มาตรฐาน
การรักษาโรคเอชไอวี เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการร่วมมือกันระหว่างแพทย์และผู้ป่วย การใช้ยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการควบคุมโรค และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี การหลงเชื่อในผลิตภัณฑ์ หรือวิธีการรักษาที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่ออาการอันรุนแรง แต่ยังเป็นการละทิ้งการรักษาที่ได้ผลดี และได้รับการยอมรับทั่วโลก
การเข้าถึงการตรวจหาเชื้อเอชไอวี และการรักษาที่มีคุณภาพผ่านระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นสิทธิที่คนไทยทุกคนควรใช้ประโยชน์ เพื่อให้สามารถรับการรักษาที่ได้มาตรฐาน และมีโอกาสในการมีชีวิตที่มีคุณภาพได้ การรักษาเอชไอวีไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องรับมือเพียงลำพัง ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีสามารถหันไปขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและปลอดภัย
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ U=U และการป้องกัน HIV
- U=U&ME แคมเปญเพื่อความเข้าใจเรื่องเอชไอวีในประเทศไทย
หากคุณ หรือคนใกล้ชิดของคุณเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาควรติดต่อยังหน่วยงานด้านเอชไอวีโดยเฉพาะ เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง และทันสมัยที่สุด อีกทั้งยังสามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทั่วไปได้อีกด้วย องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเหล่านี้ พร้อมที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดี และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแม้ว่าจะมีเชื้อเอชไอวี
การรักษาเอชไอวี ในยุคปัจจุบันได้ก้าวไปไกลมาก ด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพ ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีสามารถมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยให้เราเข้าใจถึงการทำงานของเชื้อเอชไอวีได้ดียิ่งขึ้น และสามารถพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าสุขภาพของคุณเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด การรักษาที่ถูกต้องและมีมาตรฐาน เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี และปลอดภัยจากโรค ไม่ควรหลงเชื่อ อาหารเสริมเพิ่มภูมิ หรือวิธีการรักษาที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ มาร่วมกันสร้างสังคมที่มีสุขภาพดี และปราศจากการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี ด้วยการใช้วิธีการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วกันดีกว่านะครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก:
เตือน!! อย่าหลงเชื่ออาหารเสริมคุ้มกันติดเชื้อเอชไอวี https://www.hfocus.org/content/2024/07/31021
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่ม CD4 ได้จริงหรือ? https://th.trcarc.org/cotrcarc201123
ประกาศเตือน เรื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อเพิ่มเซลล์ภูมิคุ้มกัน CD4 ในผู้ติดเชื้อเอชไอวี https://www.thaiaidssociety.org/news/caution-cd4-nutrition