หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ “หนองในเทียม” หรือ Chlamydia ผ่านหูมาบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร อันตรายไหม และที่สำคัญคือถ้าเป็นแล้ว รักษาหนองในเทียม อย่างไรให้หายขาด? จริง ๆ แล้วโรคนี้พบได้บ่อยในวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ปัญหาคือโรคนี้มักไม่แสดงอาการชัดเจน โดยเฉพาะในผู้หญิง จึงทำให้หลายคนไม่รู้ตัว และปล่อยไว้จนเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะมีบุตรยาก หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ ข่าวดีคือ รักษาหนองในเทียม ไม่ได้ยากเลย หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ การใช้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องสามารถรักษาให้หายขาดได้ 100%
หนองในเทียมคืออะไร?
หนองในเทียม เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Chlamydia trachomatis ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้งช่องคลอด ทวารหนัก และทางปาก ถือเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) ที่พบมากที่สุดในโลก
อาการของหนองในเทียม
สิ่งที่ทำให้โรคนี้อันตรายคือ คนส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่ถ้ามีอาการ อาจพบว่า:
- ผู้หญิง: ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่น, ปวดท้องน้อย, มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
- ผู้ชาย: มีหนองใสหรือขุ่นออกจากท่อปัสสาวะ, ปัสสาวะแสบขัด, อัณฑะปวดบวม
- ทั้งสองเพศ: เจ็บคอหากติดจากเพศสัมพันธ์ทางปาก, ปวดหรือมีมูกที่ทวารหากติดจากทางทวารหนัก

ทำไมต้อง รักษาหนองในเทียม อย่างถูกต้อง?
- ป้องกันการแพร่เชื้อ – หากไม่รักษา อาจแพร่ไปยังคู่รักหรือคู่นอน
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน – เช่น ภาวะมีบุตรยาก, ท่อนำไข่อุดตัน, การตั้งครรภ์นอกมดลูก
- หายขาดได้ – เพียงใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม
- ลดความเสี่ยงติดเชื้อ HIV – เพราะแผลจากหนองในเทียมเพิ่มโอกาสติดเชื้ออื่น
วิธีวินิจฉัยหนองในเทียม
- ตรวจปัสสาวะ → ใช้หาสารพันธุกรรมของเชื้อ
- เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง → จากปากมดลูก, ท่อปัสสาวะ หรือทวารหนัก
- NAAT (Nucleic Acid Amplification Tests) → แม่นยำสูงสุด ใช้ในแล็บ
วิธี รักษาหนองในเทียม
1. ใช้ยาปฏิชีวนะ
- Azithromycin: กินครั้งเดียว ขนาด 1 กรัม
- Doxycycline: กินวันละ 2 ครั้ง นาน 7 วัน
- ทางเลือกอื่น: Erythromycin, Levofloxacin (กรณีแพ้ยาอื่น)
2. รักษาพร้อมกันทั้งคู่รัก
หากรักษาแค่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายยังคงมีเชื้อ → เสี่ยงติดซ้ำ
3. งดเพศสัมพันธ์ชั่วคราว
ควรงดจนกว่าจะรักษาครบและแพทย์ยืนยันว่าหายแล้ว
ข้อควรระวังในการรักษาหนองในเทียม
- อย่าซื้อยามากินเอง → เสี่ยงดื้อยา
- ต้องกินยาจนหมด แม้อาการจะหายไปแล้ว
- ตรวจซ้ำภายใน 3 เดือน เพื่อยืนยันว่าเชื้อหายขาด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เสมอ
ภาวะแทรกซ้อนจากการไม่รักษาหนองในเทียม
- ผู้หญิง → อุ้งเชิงกรานอักเสบ, มีบุตรยาก, การตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ผู้ชาย → อัณฑะอักเสบ, ต่อมลูกหมากอักเสบ
- ทั้งคู่ → เสี่ยงติดเชื้อ HIV ง่ายขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการ รักษาหนองในเทียม
- โรงพยาบาลรัฐ: 200–800 บาท (บางสิทธิ์บัตรทองฟรี)
- โรงพยาบาลเอกชน: 800–2,000 บาท (รวมค่าตรวจและยา)
- คลินิกชุมชน: 150–500 บาท และบางโครงการมีบริการฟรี
ป้องกันไม่ให้กลับมาติดซ้ำ
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- ตรวจสุขภาพทางเพศทุก 6–12 เดือน
- หลีกเลี่ยงคู่นอนหลายคน
- สื่อสารกับคู่รักเรื่องสุขภาพเพศอย่างเปิดใจ

ประสบการณ์จริงจากเพื่อน
เพื่อนผมเคยมีอาการปัสสาวะแสบขัด คิดว่าเป็นแค่นิ่ว แต่ตรวจพบว่าเป็นหนองในเทียม โชคดีที่ไปหาหมอเร็ว ได้ยา Doxycycline 7 วัน อาการหายสนิท และตรวจซ้ำอีกครั้งก็ไม่พบเชื้อ หลังจากนั้นก็หันมาใส่ใจป้องกันตัวเองมากขึ้น
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย วิธีลดความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศ
- ข้อควรรู้เกี่ยวกับการป้องกัน HPV วิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดความเสี่ยง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ รักษาหนองในเทียม
รักษาหนองในเทียมใช้เวลานานไหม?
เพียง 7 วัน หากกินยาถูกต้องครบถ้วน
โอกาสติดซ้ำมีไหม?
มี หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
จำเป็นต้องตรวจซ้ำหรือไม่?
ควรตรวจซ้ำหลัง 3 เดือน เพื่อความมั่นใจว่าหายขาด
สรุป
การรักษาหนองในเทียมไม่ใช่เรื่องยาก หากรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ และทำการรักษาอย่างถูกต้องด้วยยาปฏิชีวนะ เพียงไม่กี่วันก็สามารถหายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยไว้นาน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและรักษายากกว่า ดังนั้น หากคุณหรือคู่รักมีอาการผิดปกติ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง อย่ารอช้า ควรไปตรวจและรักษาหนองในเทียมให้เร็วที่สุด เพื่อสุขภาพทางเพศที่ดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก:
– โรคหนองในกับแนวทางการรักษาใหม่
– หนองในเทียม – อาการ, สาเหตุ, การรักษา
– แนวทางการดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พ.ศ. 2567